การวิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อรายได้ของเกษตรกรที่ปลูกหน่อไม้ฝรั่ง (หน่อเขียว) ในเขตอำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี ปีการเพาะปลูก 2536/2537

ชื่อวิทยานิพนธ์ : การวิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อรายได้ของเกษตรกรที่ปลูกหน่อไม้ฝรั่ง (หน่อเขียว) ในเขตอำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี ปีการเพาะปลูก 2536/2537
ชื่อนักศึกษา : พรเฉลิม คุโณทัย
สถาบัน : มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
ปริญญา : มหาบัณฑิต
หลักสูตร : เศรษฐศาสตร์
สาขา : เศรษฐศาสตร์ธุรกิจ
ปี : 2538
ISBN : 974-677-032-2
สืบค้นข้อมูลต้นสังกัด : http://library.utcc.ac.th
บทคัดย่อ : หน่อไม้ฝรั่งเริ่มมีการส่งเสริมให้ปลูกอย่างจริงจังตั้งแต่ พ.ศ. 2530 เป็นต้นมา เป็นพืชที่ทำรายได้ดี หน่อไม้ฝรั่งชนิดหน่อเขียวใช้บริโภคสด และส่งไปจำหน่ายยัง ต่างประเทศทั้งแบบสดและแบบแช่แข็ง วัตถุประสงค์ของการศึกษา เพื่อศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนที่ได้รับจากการเพาะปลูก หน่อไม้ฝรั่งและปัจจัยที่มีผลกระทบต่อรายได้ของเกษตรกรผู้ปลูกหน่อไม้ฝรั่ง โดยเน้น ศึกษาในเขตอำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี ในปีแรก การทำสวนหน่อไม้ฝรั่งนั้น มีการลงทุนสูงเนื่องจากมีค่าพันธุ์เข้ามา เกี่ยวข้องและการเก็บผลผลิตยังเก็บได้ไม่เต็มที่ ต้นทุนเฉลี่ยทั้งหมด 25,682 บาทต่อไร่ ประกอบด้วยค่าแรงงานและค่าปุ๋ยเป็นส่วนใหญ่ มีรายได้เฉลี่ย 19,094 บาทต่อไร่ ในปีแรก เกษตรกรขาดทุนสุทธิ 6,588 บาทต่อไร่ แต่ถ้าคิดเฉพาะต้นทุนที่เป็นเงินสด เกษตรกรจะมี รายได้สุทธิ 5,364 บาทต่อไร่ ส่วนในปีที่ 2-3 มีต้นทุนเฉลี่ยทั้งหมด 23,811 บาทต่อไร่ ซึ่งประกอบด้วยค่า แรงงานและค่าปุ๋ยเป็นส่วนใหญ่ มีรายได้เฉลี่ย 41,841 บาทต่อไร่ ดังนั้นเกษตรกรมีรายได้ สุทธิ 18,030 บาทต่อไร่ ถ้าคิดเฉพาะต้นทุนที่เป็นเงินสดเกษตรกรจะมีรายได้สุทธิ 30,163 บาทต่อไร่ จากการวิเคราะห์แสดงให้เห็นว่าปุ๋ยเป็นปัจจัยที่มีผลกระทบต่อรายได้มากที่สุด โดยในปีแรกมีค่าความยืดหยุ่น 0.9033 คือถ้าเพิ่มมูลค่าปุ๋ยร้อยละ 1 จะทำให้รายได้ เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.9033 ส่วนในปีที่ 2 และ 3 มีค่าความยืดหยุ่น 0.5860 กล่าวคือถ้า เพิ่มมูลค่าปุ๋ยร้อยละ 1 จะทำให้รายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5860 ดังนั้นเกษตรกรควรเพิ่ม ปริมาณการใช้ปุ๋ยให้มากขึ้น เพื่อทำให้รายได้สูงขึ้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น